Admission VS Entrance
เราลองมาดูกันดีกว่าระหว่างสองระบบการศึกษานี้อันไหนจะดีกว่า
ผู้เข้าชมรวม
2,136
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หัวข้อเปรียบเทียบ |
Admission |
Entrance |
องค์ประกอบในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย |
- คะแนน GPAX (เกรดเฉลี่ยม.ปลาย) เก็บ 10% - คะแนน GPA (เกรดเฉลี่ย ม.ปลาย ตามวิชาชีพที่เข้าเรียน) เก็บเพิ่มขึ้นปีละ 10%จนถึง 40% - คะแนน O-NET (สอบขั้นพื้นฐานที่ควรมี ซึ่งประกอบด้วย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ - คะแนน A-NET (สอบขั้นสูงที่ในสายวิชาชีพที่มี) ทั้งO-NETและ A-NET เก็บรวมกันเป็นที่เหลือ (ประมาณ 50% - 60% |
- คะแนน GPA+PR (เกรดเฉลี่ยม.ปลาย เก็บ10% - ผลสอบวิชาหลักและวิชาเฉพาะ เก็บ 90%
|
จำนวนครั้งที่สามารถสอบได้ |
- O-NET สอบได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต (พลาดแล้วพลาดเลย) - A-NET เมื่อสอบไปแล้วจะสอบใหม่ได้ใน 3 ปีถัดไป - โดยทั้ง 2 อย่างนี้จะสามารถขอสอบใหม่ได้ หากมีเหตุผล สมควรทดสอบ เช่น เข้าโรงพยาบาล เป็นต้น |
- สอบได้ปีละ 2 ครั้ง โดยเลือกเอาคะแนนมากสุด - ถ้าสอบตกก็สามารถมาสอบใหม่ได้อีกเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ |
ค่านิยมในการเรียนกวดวิชา |
- เรียนทุกคอร์สตั้งแต่ ม.4 ถึง ม.6 (เพื่อจะได้มีคะแนนเฉลี่ย(GPA กับGPAX) มากๆ) - เรียนคอร์ส O-NET ทั้งหมด (ซึ่งมีอยู่มากถึง 5 วิชา) - เรียนคอร์ส A-NET ที่จะเข้าคณะนั้น
|
เรียนเฉพาะคอร์สEntrance วิชาที่จะสอบเข้า |
การแข่งขันในชั้นเรียนที่สังเกตได้ |
เริ่มตั้งแต่ชั้น ม.4 จนเข้ามหาวิทยาลัย |
เริ่มตั้งแต่ ม.6 จนจบการสอบEntrance |
การโกงและฉ้อฉลเพื่อให้ได้คะแนนมากๆในการเข้ามหาวิทยาลัย |
- การเล่นเส้นกับอาจารย์ที่สอน การลอกการบ้าน การลอกในห้องสอบ (ทำให้ได้คะแนนGPAX+GPAมาก) - การโกงข้อสอบ O-NET A-NET |
- เมื่อสอบEntrance จะได้เมื่อ ทำข้อสอบEntrance |
การเริ่มก่อตั้งและจุดจบ |
เข้ามาในระบอบรัฐบาลทักษิณ ในปีพ.ศ.2547 และเริ่มปฏิบัติในปี พ.ศ.2549 ซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่า |
มีมานานกว่า 40 ปี มาแล้ว ซึ่งนักเรียนก็ยอมรับ และถูกยุบเมื่อมีระบบAdmissionเข้ามา |
นักเรียน(บางคน)ที่ฆ่าตัวตายที่ปรากฏให้เห็นเป็นข่าว |
เมื่อทราบผลเกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 4 เทอมขึ้นไปแล้วไม่เป็นดังหวัง ก็จะ... |
เมื่อสอบแล้วทราบผลEntranceว่าสอบตก ก็จะ... |
]
จะเห็นได้ว่า Admission จะเหนือกว่า Entrance ด้วยรายละเอียด(ความยุ่งยาก)อยู่หลายประการ ซึ่งทำให้มันดูดีและเชื่อถือได้มากว่า แต่ในทางปฏิบัติจริงกลับมีช่องโหว่อยู่หลายประการให้เห็นเช่นกัน โดยเฉพาะที่ถกเถียงคือ GPAและGPAX ที่แต่ละโรงเรียนจะมีมาตรฐานไม่เหมือนกัน ในโรงเรียนเดียวด้วยกันก็เหอะบางทีก็ให้คะแนนที่มีมาตรฐานไม่เท่ากันเลย ดังหัวข้อ “การโกงและฉ้อฉลเพื่อให้ได้คะแนนมากๆในการเข้ามหาวิทยาลัย” (อย่ามาเถียงผมเรื่องนี้ เพราะผมใช้วิธีนี้แหละเลยทำให้ได้คะแนนเฉลี่ยสูงๆครั้งหนึ่งมาแล้ว) จึงเป็นที่มาของคำว่า “เกรดเฟ้อ”
ผลงานอื่นๆ ของ Warchief ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Warchief
ความคิดเห็น